ความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อชีวิตรักก็คือ ความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ (Toxic Relationship) หรือที่เรามักจะพูดว่ามัน “ท็อกซิก” เนื่องด้วยนานาเหตุผล ความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ พูดง่ายๆ ก็คือรูปแบบของความสัมพันธ์ที่ทำให้ไม่มีความสุขเอาเสียเลย ทั้งร่างกาย จิตใจ ความรู้สึกเสียเปรียบ การที่เราจะต้องมากังวลกับความสัมพันธ์ มีรูปแบบการใช้ความรุนแรง หรืออะไรก็ตามที่เจอมากับตัวแล้วมันแย่ๆ จนทำให้เราไม่มีความสุขเลย

รูปแบบของความสัมพันธ์แย่ๆ

รูปแบบของความสัมพันธ์ที่เป็นพิษมีหลายรูปแบบ ยกตัวอย่างเช่น

การกดขี่ (Abuse) 

การใช้อำนาจข่มเขง นอกจากจะ “ท็อกซิก” มากๆ แล้ว ยังเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมอีกด้วย

การควบคุม (Control) 

คนรักคนหนึ่งจะควบคุมได้ตลอดเวลา เช่น คู่รักที่ชอบบงการ จะตระหนักถึงการกระทำของพวกเขา และเลือกพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เพื่อแสดงการครอบงำ รักษาการควบคุมเหนือคู่รักอีกคนหนึ่ง

การจัดการ (Manipulation) 

คนท็อกซิกในความสัมพันธ์ มักจะใช้ทักษะมันสมองของเขาบงการ จัดแจงความสัมพันธ์ทุกอย่าง สุดท้ายก็คือการบ่อนทำลายคู่ของคน โดยพื้นฐานแล้วความสัมพันธ์นี้ เกี่ยวข้องกับผู้กดขี่ ซึ่งชอบพาลและอีกฝ่ายก็จะเป็นเหยื่อ โดยไม่ค่อยจะมีท่าทีที่เปลี่ยนแปลงสักเท่าไร

วงจรของการละเมิดและคืนดี ประนีประนอม (A Cycle of Abuse & Reconciliation) 

ความสัมพันธ์ที่วนไป มันคือการการละเมิด คืนดี ประนีประนอม วนเวียนกัน แต่สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักถึงวงจรของการละเมิดนี้ มันอาจจะรวมถึงสิ่งที่อยู่นอกเหนือจากการละเมิดทางร่างกายและจิตใจ เช่น การละเมิดทางการเงิน หรือใช้ความใกล้ชิดทางกาย เพื่อยืดเวลาการล่วงละเมิด เช่น พฤติกรรมการบีบบังคับทางเพศได้ด้วย

ทำอย่างไรถึงจะหลีกหนีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีได้?

รูปแบบความสัมพันธ์เป็นพิษที่พบเจอ มักทำให้เราไม่มีความสุข ทุกข์ระทมกับตัวเอง บางครั้งอาจทำให้มองไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง แล้วจะทำอย่างไรให้เรากำจัดความสัมพันธ์ที่เป็นพิษออกไปได้ ในบทความจากต่างประเทศกล่าวไว้ 6 วิธี ประกอบด้วย

เปิดใจสนทนาอย่างเปิดกว้างและตรงไปตรงมา

สื่อสารอย่างเปิดเผยและดีต่อคุณในฐานะหนึ่งในเจ้าของความสัมพันธ์ การใช้จังหวะสนทนากันโดยซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตนเอง และจังหวะของการสนทนาเหล่านี้ก็มีความสำคัญเช่นกัน ดังนั้น เลือกเวลาที่ทั้งคู่ได้พักผ่อน อารมณ์ดี เพื่อเป็นจังหวะที่ดีในการสนทนาร่วมกัน

อย่าจมอยู่กับอดีต

การมุ่งความสนใจไปที่ความผิดพลาดในอดีตจะไม่ทำให้คุณก้าวไปข้างหน้าได้เลย เราไม่สามารถควบคุมอดีตได้ และที่สำคัญคือการที่เรามุ่งโฟกัสไปในอดีตจะทำให้คุณไม่ใส่ใจกับปัจจุบัน เพราะฉะนั้นเราอาจต้องใช้เวลาจัดการกับอดีต จะได้ไม่จมอยู่กับทุกข์ในขณะที่คุณกำลังพยายามจะก้าวไปข้างหน้าในความสัมพันธ์

มองคู่ของคุณด้วยความเห็นอกเห็นใจ

ถึงแม้จะยากลำบากแค่ไหนก็ตาม เพราะในฐานะมนุษย์ เขาอาจทำผิดต่อเรา การเข้าหาคนรักด้วยความเห็นอกเห็นใจเป็นสิ่งสำคัญเพราะมันช่วยให้คุณเห็นเขาในฐานะมนุษย์ ความเห็นอกเห็นใจในช่วงเวลาแห่งความขัดแย้งสามารถช่วยรีเซ็ตวิธีการสื่อสารได้

การรับผิดชอบต่อส่วนของตัวเราเอง

เป็นสิ่งสำคัญมากในการความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ หากคนๆ นั้นไม่ยอมรับว่าเขามีปัญหา เขาก็จะไม่เปลี่ยนแปลง และความสัมพันธ์ที่ถูกทำลายด้วยคำพูดหรือการกระทำที่รุนแรงก็จะไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ เว้นแต่ผู้กระทำผิดจะซื่อสัตย์อย่างยิ่งยอมรับความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อความเจ็บปวดที่เขาก่อ และพยายามแก้ไขให้ถูกต้องเป็นระยะเวลาที่นานพอสมควร (6 เดือนถึง 1 ปี) คำขอโทษหรือคำสัญญาที่ง่ายดายจะไม่ช่วยอะไร

พูดคุยกับนักบำบัด

การบำบัดมีประสิทธิภาพมากในการรักษาปัญหาความสัมพันธ์และความเครียดที่เกิดจากปัญหาเหล่านี้ การระบุสาเหตุของปัญหาหรือความรู้สึกเป็นก้าวแรกสู่การฟื้นตัวหรือการก้าวไปข้างหน้าจากความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ

การให้พื้นที่ในการเปลี่ยนแปลง 

การเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลา จำไว้ว่าการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ก็ท้าทายพอๆ กับการลืมสิ่งเก่าๆ เมื่อเราพยายามเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างในความสัมพันธ์ ทั้งสองฝ่ายต้องร่วมมือกัน หน้าที่สำหรับอีกฝ่ายหนึ่งอาจหมายถึงการให้พื้นที่สำหรับการเปลี่ยนแปลงนั้นให้เกิดขึ้น เพื่อให้คุณได้เห็นมองเห็นภาพการเปลี่ยนแปลงได้เข้าใจมากขึ้นนั้น หากไม่มีพื้นที่ที่จะแสดงวิธีการใหม่ ๆ ในความสัมพันธ์ คุณจะไม่มีวันได้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นมีลักษณะอย่างไร

แน่นอนว่าการทำเช่นนี้ต้องใช้ความอดทนและการดูแลตนเองอย่างมาก ดังนั้นโปรดให้ความสำคัญกับการดูแลตนเองด้วยเช่นกัน แต่สำหรับบางคน ตัวเลือกที่ดีที่สุดในการจัดการกับความสัมพันธ์ที่เป็นพิษคือการออกจากความสัมพันธ์ และมูฟออน หรือพยายามมูฟออน เพราะเมื่อสุขภาพกายใจ ความเป็นอยู่ที่ดีของคุณได้รับผลกระทบนั้น ความสัมพันธ์นี้กำลังส่งผลเสียมากกว่าผลดีสำหรับคุณ หรือลองปรับดูแล้วเราก็ยังเข้ากันไม่ได้จริงๆ และเมื่อมีการละเมิดใดๆ สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักถึงคุณค่าของตนเอง ปกป้องตนเอง และรับความช่วยเหลือทันที และการขอรับความช่วยเหลือไม่ใช่สิ่งที่ผิดหรือน่าอาย ขอให้คุณรู้ไว้ว่ายังมีคนที่คอยปกป้องคุณไม่ว่าจะเป็นเพื่อน คนรอบข้าง คนที่เรารักมากมาย หรือแม้กระทั่งนักบำบัดที่พร้อมจะใช้กระบวนการทางจิตวิทยาเพื่อช่วยเหลือคุณค่ะ

 

อ้างอิงจาก: Choosing Therapy