ในศัพท์ LGBTQI+ เราจะรู้กันดีอยู่แล้วว่า

  • L นั้นย่อมาจาก เลสเบี้ยน (Lesbian) หมายถึง เพศหญิงที่มีความสนใจในเพศหญิงด้วยกัน
  • G นั้นมาจาก เกย์ (Gay) หมายถึง หากแปลให้ง่ายที่สุดคือ เพศชายที่มีความสนใจในเพศชายด้วยกัน แต่ในความจริงแล้วในสังคมตะวันตก ผู้หญิงก็นิยมตัวเองว่าเป็นเกย์ได้เหมือนกัน
  • B คือ ไบเซ็กซวล (Bisexual) หมายถึง เป็นกลุ่มที่ชอบเพศได้ทั้ง 2 เพศ ไม่กำหนดตายตัวว่าจะชอบเฉพาะเพศตรงข้าม หรือเพศเดียวกัน
  • T นั้นมาจาก ทรานส์เจนเดอร์ (Transgender) หรือ คนข้ามเพศ หมายถึง ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีคนมีอัตลักษณ์ทางเพศ หรือการแสดงออกทางเพศที่แตกต่างจากเพศกำเนิด ทำให้ต้องมีใช้กระบวนการเปลี่ยนผ่านทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดยืนยันเพศ และการใช้ฮอร์โมนกระตุ้น เพื่อให้เป็นเพศนั้นๆ ได้อย่างสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

แต่เนื่องด้วยความ inclusive (การหลอมรวม)ให้ทุกๆ อัตลักษณ์ทางเพศมีตัวตน เราจึงพบได้ว่า LGBT ยิ่งยาวมากเท่าไร ยิ่งสะท้อนการมีตัวตนของกลุ่มอัตลักษณ์ทางเพศที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น:

  • Q นั้นเป็นคำย่อของ เควียร์ (Queer) หมายถึง เป็นกลุ่มคนที่ไม่ชอบ รัก หรือเสน่หาในคนต่างเพศ (Straight) หรือ เพศตรงเพศกำเนิด (Cisgender) ซึ่งเหมือนเป็นร่มใหญ่ของ LGBTQIA+ นอกจากนี้ Q ยังเป็นตัวแทนของ เควสชันนิง (Questioning) เป็นกลุ่มคนที่กำลังตั้งคำถามในเพศวิถีของตน ยังไม่รู้ว่าตนเองเลือกอะไร แต่ไม่ใช่ตามเพศกำเนิด เมื่อเวลาผ่านไปผู้คนมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ทำให้เกิดคำจำกัดความของเพศวิถีที่เพิ่มขึ้น จนมีการเติม I และ A เข้ามาด้วย โดยที่
  • I นั้นเป็นตัวย่อของ อินเตอร์เซ็กซ์ (Intersex) หรือ ภาวะเพศกำกวม หมายถึง  ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีทั้งโครโมโซม อวัยวะเพศ ของทั้งเพศชายและหญิง
  • A เป็นตัวย่อของ 3 คำ คำแรกคือ อะเซ็กซวล (Asexual) หมายถึง กลุ่มคนที่ไม่รู้สึกดึงดูดทางเพศกับผู้อื่น หรืออาจรู้สึกเล็กน้อย ซึ่งต้องมีปัจจัยบางอย่างมากระตุ้น
  • A ที่ 2 มาจาก อะโรแมนติก (Aromantic) หมายถึงกลุ่มคนที่ไม่มีแรงดึงดูดความโรแมนติกกับผู้อื่น
  • A สุดท้ายมาจาก อะเจนเดอร์ (Agender) คือ กลุ่มคนที่ไม่ต้องการระบุเพศว่าตนเองเป็นเพศใดๆ 
  • N มาจาก นอนไบนารี (Non-binary) คือ เป็นสำนึกทางเพศชนิดหนึ่งที่ไม่ใช่ชายและหญิง ไม่เป็นไปตามบรรทัดฐานทางสังคม เป็นคำกว้างๆ ที่พูดถึงเพศต่างๆ ที่ไม่ใช่ชายและหญิง นอน-ไบนารี่ เป็นร่มใหญ่ ที่แตกย่อยออกไปอีกคือสำนึกทางเพศหลายรูปแบบ ไม่ว่าคุณจะเป็นการผสมผสานระหว่างสองเพศ (androgyne) เป็นกลางหรือรู้สึกไม่มีเพศ (agender) หรือมีเพศที่ลื่นไหลไปมา (Gender Fluid) หรืออื่นๆ

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ในปัจจุบันเพศวิถีนั้นมีมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ชุมชนของกลุ่มคนผู้มีความหลากหลายทางเพศ จึงมีการเติมเครื่องหมายบวก (+) หรือ s ตัวพิมพ์เล็กและเติมเครื่องหมายบวก (s+) เข้าไปอยู่ในตัวย่อเสมอ เพื่อให้ครอบคลุมและเป็นสัญลักษณ์ว่าทุกคนที่มีเพศวิถีแตกต่างจากที่สังคมในสมัยก่อนเข้าใจ ล้วนอยู่ในชุมชนของผู้มีความหลากหลายทางเพศทั้งสิ้น

แต่สาวข้ามเพศอย่างเราๆ ไม่ใช่มีแค่ตัว T Transgender หรือ Trans woman แล้วจะจบนะคะ เพราะยังมีเพื่อนๆ เราอีกหลายคนที่นิยามตัวเองเป็นคนข้ามเพศ และมีอัตลักษณ์ทับซ้อนในตัวของเขา ยกตัวอย่างเช่น เพื่อนสาวข้ามเพศที่มีรสนิยมทางเพศที่รักผู้หญิงหรือคนที่มีความเป็น Feminine มากกว่าผู้ชาย สามารถนิยามตัวเองว่า ทรานส์เลสเบี้ยน (Trans lesbian) หรือยกตัวอย่างที่ 2 เพื่อนสาวข้ามเพศที่รู้ว่าตัวเอง ต้องการข้ามจากกล่องเพศชาย สู่กล่องเพศหญิง แต่วิถีการแสดงออกทางเพศเขาไม่รู้สึกว่าตัวเองอยู่ในกรอบทั้งชายและหญิงเลย เขาอาจนิยามตัวเองได้ว่า ทรานส์นอนไบนารี่ (Trans Non-binary) ก็เป็นได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสะดวกใจของแต่ละบุคคลว่าจะนิยามอัตลักษณ์ทางเพศตัวเองแบบใด

เพราะการที่อัตลักษณ์ทางเพศ ความชอบ บุคลิก การแสดงออก ความรู้สึกดึงดูดทางเพศ แตกต่างไปจากความเป็นชายหรือหญิงในบริบทของสังคมนั้นๆ หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า (Gender nonconforming) จึงนำไปสู่อัตลักษณ์และการนิยามตัวตนที่หลากหลาย และความหลากหลายก็คือความสวยงามของโลกใบนี้

 

อ้างอิงจาก: Bangkokbiznews, Prachatai, ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่