Sisterhood

มิถุนายน – เดือนแห่งความภาคภูมิใจของชาว LGBTQ+ ทั่วโลก ถือเป็นช่วงเวลาที่เราร่วมเฉลิมฉลองตัวตน และส่งเสริมสิทธิของทุกเพศทุกวัย หนึ่งในเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม คือการเข้าถึง “การเทคฮอร์โมน” อย่างปลอดภัย สำหรับกลุ่มคนข้ามเพศ (Transgender) ซึ่งเป็นกระบวนการที่ช่วยให้ผู้คนได้ก้าวไปสู่ร่างกายและเพศภาวะที่สอดคล้องกับอัตลักษณ์ของตนเอง

การเทคฮอร์โมนคืออะไร?

การเทคฮอร์โมน หรือ Hormone Replacement Therapy (HRT) คือกระบวนการใช้ฮอร์โมนของเพศที่ต้องการเข้าสู่ร่างกาย เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายให้ใกล้เคียงกับเพศเป้าหมาย เช่น หน้าอก เสียง ลักษณะกล้ามเนื้อ ขน และรูปร่าง

การใช้ฮอร์โมนในกลุ่มคนข้ามเพศแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มหลัก คือ:

ฮอร์โมนเพื่อเปลี่ยนจากชายเป็นหญิง (Feminizing Hormone Therapy)

  • ใช้ ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) เพื่อปรับสรีระให้มีความเป็นผู้หญิงมากขึ้น เช่น หน้าอก นุ่มผิว ลดขน
  • ใช้ ยาต้านฮอร์โมนเพศชาย (Anti-androgen) เพื่อหยุดการผลิตเทสโทสเตอโรน

ฮอร์โมนเพื่อเปลี่ยนจากหญิงเป็นชาย (Masculinizing Hormone Therapy)

  • ใช้ ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) เพื่อปรับร่างกายให้มีลักษณะของเพศชาย เช่น เสียงต่ำ กล้ามเนื้อแข็งแรง เพิ่มขนบริเวณใบหน้าและร่างกาย

การให้ฮอร์โมนสามารถทำได้หลายวิธี เช่น

  • แบบฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
  • แบบเจลหรือแผ่นแปะผ่านผิวหนัง
  • แบบรับประทาน

อยากเริ่มเทคฮอร์โมน ต้องรู้อะไรบ้าง?

การเทคฮอร์โมนไม่ใช่แค่การซื้อยามารับประทานเอง แต่ต้องอยู่ภายใต้ การดูแลของแพทย์เฉพาะทาง เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด โดยควรเตรียมพร้อมใน 3 ด้านหลัก ได้แก่:

ด้านร่างกาย

  • ตรวจสุขภาพร่างกาย ตรวจเลือด และวิเคราะห์ค่าต่าง ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายพร้อมสำหรับการรับฮอร์โมน
  • ปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เช่น อายุรแพทย์หรือแพทย์เวชศาสตร์ทางเพศ

ด้านจิตใจ

  • ต้องผ่านการประเมินโดยจิตแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านสุขภาพเพศ
  • อาจต้องมีการสัมภาษณ์และทำแบบประเมิน เพื่อให้มั่นใจว่าการเปลี่ยนแปลงนี้สอดคล้องกับอัตลักษณ์ทางเพศของคุณ

ด้านสังคม

  • สถานะการงาน การศึกษา หรือสภาพแวดล้อมเปิดกว้างและปลอดภัยต่อการเปลี่ยนแปลงหรือไม่?
  • มีความพร้อมในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและการมองของสังคมหรือเปล่า?

ไม่ควรเทคฮอร์โมนด้วยตัวเอง

แม้หลายคนจะหาซื้อฮอร์โมนได้ทางออนไลน์หรือร้านขายยา แต่การใช้ฮอร์โมนโดยไม่มีแพทย์ดูแลอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียง เช่น

  • ลิ่มเลือดอุดตัน
  • โรคหัวใจ
  • ความผิดปกติของตับ
  • ภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล

การตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ เช่น การตรวจระดับฮอร์โมน, ตรวจตับ, และการประเมินผลข้างเคียง จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง

เข้าถึงบริการได้ที่ไหน?

หลายโรงพยาบาลในประเทศไทยมี “คลินิกสุขภาพเพศ” ที่ให้บริการครบวงจร ทั้งการประเมินสุขภาพร่างกาย-จิตใจ การให้คำปรึกษา และการจ่ายฮอร์โมนอย่างถูกต้อง เช่น

  • ศูนย์สุขภาพเพศ โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์
  • คลินิกสุขภาพเพศ Health Care โรงพยาบาลเปาโล เกษตร
  • คลินิกที่ให้บริการสำหรับคนข้ามเพศในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ (รวมถึง Hugsa Clinic)

Pride นี้… เทคฮอร์โมนด้วยความเข้าใจ คือการรักตัวเองอย่างแท้จริง

ในเดือน Pride ที่เราต่างร่วมเฉลิมฉลองอัตลักษณ์และความหลากหลายของกันและกัน การเทคฮอร์โมนไม่ใช่แค่เรื่องทางการแพทย์ แต่คือการเดินทางสู่ตัวตนที่คุณภาคภูมิใจ จงเลือกเส้นทางอย่างปลอดภัย มีความรู้ และมีทีมแพทย์ที่เข้าใจคุณอยู่เคียงข้าง