Sisterhood

ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย ประกาศเดินหน้านโยบายความเท่าเทียมในสถานที่ทำงาน ด้วยการให้สิทธิ “ลาแต่งงานแบบได้รับค่าจ้าง” สำหรับพนักงาน LGBTQ+ ภายหลังจากพระราชบัญญัติสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในปีนี้ พร้อมขยายสวัสดิการด้านประกันสุขภาพให้ครอบคลุมถึงคู่ชีวิตและครอบครัวของพนักงานทุกเพศทุกวัย ตอกย้ำจุดยืนในการเป็นองค์กรที่สนับสนุนความหลากหลายและเท่าเทียมมาอย่างต่อเนื่องกว่า 15 ปี

นอกจากนี้ ธนาคารยังได้เพิ่มสิทธิ “ลาพักเพื่อเลี้ยงดูบุตรบุญธรรม” สำหรับพนักงาน LGBTQ+ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งนโยบายที่แสดงถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสถานที่ทำงานที่เคารพในความแตกต่างและส่งเสริมให้พนักงานทุกคนมีคุณค่าและสามารถเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ

HSBC ประเทศไทย

คว้ารางวัล Best Places to Work ระดับโลก

ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย ยังได้รับการยกย่องจาก สถาบัน Best Places to Work ให้เป็นหนึ่งในสถานที่ทำงานที่ดีที่สุด ซึ่งถือเป็นรางวัลระดับนานาชาติที่ยืนยันถึงความทุ่มเทขององค์กรในการสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่ดี และส่งเสริมประสบการณ์ของพนักงานในทุกมิติ

การรับรองนี้ตอกย้ำถึงแนวทางของธนาคารในด้านความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เปิดกว้างและให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพของพนักงานทุกคน

ความเท่าเทียมที่เป็นรูปธรรม

นางสาวมลิสา ศิระวิศิษฏ์พร ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย กล่าวว่า ธนาคารได้ส่งเสริมความหลากหลายทางเพศและความเท่าเทียมมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้มอบสวัสดิการที่ครอบคลุมถึงคู่ชีวิตของพนักงาน LGBTQ+ มายาวนานกว่า 15 ปี

มลิสา ศิระวิศิษฏ์พร

ในช่วงที่ผ่านมา ธนาคารยังได้ขยายสิทธิให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยอนุญาตให้ พนักงาน LGBTQ+ ที่เป็นผู้ดูแลหลักของบุตรบุญธรรมสามารถลาพักเพื่อเลี้ยงดูบุตรได้นานถึง 126 วัน พร้อมได้รับค่าจ้างตามปกติ ซึ่งเทียบเท่ากับสิทธิของพนักงานหญิงและชายที่มีบุตร

ขณะเดียวกัน พนักงานที่ไม่ได้เป็นผู้ดูแลหลัก ไม่ว่าจะเป็นเพศหญิง เพศชาย หรือเพศทางเลือก ก็มีสิทธิ ลาพักเพื่อช่วยดูแลบุตรหลังคลอดหรือบุตรบุญธรรมได้นานสูงสุด 30 วัน พร้อมรับค่าจ้างเต็มจำนวนเช่นกัน

“แม้ในอดีตกฎหมายสมรสเท่าเทียมจะยังไม่มีผลบังคับใช้ ธนาคารเอชเอสบีซีก็ยังคงให้ความสำคัญกับสิทธิของพนักงานทุกคนอย่างเท่าเทียมเสมอมา” นางสาวมลิสากล่าว

มุ่งมั่นเพื่อพนักงานทุกเพศ ทุกระดับ

ธนาคารยังคงเดินหน้านโยบายที่ให้ สวัสดิการเท่าเทียมกันสำหรับพนักงานทุกเพศ ทุกช่วงวัย และทุกระดับตำแหน่ง โดยในปี 2568 นี้ ได้มีการปรับปรุง โปรแกรมตรวจสุขภาพประจำปี ให้ครอบคลุมและเท่าเทียมกันสำหรับพนักงานทุกกลุ่ม

เพราะธนาคารเชื่อว่า สุขภาวะที่ดี (Well-being) และความสุขในที่ทำงานเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้พนักงานสามารถแสดงศักยภาพของตนได้อย่างเต็มที่ และสร้างบรรยากาศการทำงานที่มีความสุขและยั่งยืน