การใช้ฮอร์โมนสามารถทำได้ทุกเพศ แต่สำหรับกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQIAN+) จะมากหน่อย ซึ่ง รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น นักแสดงและนักกีฬาวอลเลย์บอลมากความสามารถที่เพิ่งคว้ามงกุฏนางสาวเชียงใหม่ในดวงใจปี 2567 มาครอง ได้ออกมาเปิดเผยประสบการณ์ถึงเรื่องการเทคฮอร์โมนผ่าน “รายการ Rise & Shine สุขภาพดีเริ่มที่ตัวเรา” ว่า มีนะการใช้ฮอร์โมน เราเองก็มีช่วงที่อยากซอฟต์ แต่พอเราได้เรียนรู้อะไรมากขึ้น เราเลยรู้ว่าสภาพร่างกายของเราไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเวลาเทคฮอร์โมนจึงต้องปรึกษาแพทย์
การใช้ฮอร์โมนเองอันตรายมาก เพราะเวลาไปซื้อยาเอง เขาก็ไม่ได้มาถามเราว่ามีโรคประจำตัวอะไรบ้าง ไม่ว่ายาอะไรก็แล้วแต่ ไม่ได้ปรึกษาแพทย์ มีผลเสมอ แนะนำเลยว่าคนที่จะเทคฮอร์โมน ให้ปรึกษาแพทย์จะดีกว่า ทำแล้วทำให้ดีไปเลยดีที่สุด
โดย แพทย์หญิง นิดา เสรีฉันทฤกษ์ อายุรแพทย์ด้านต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิซึม คลินิก be YOURSELF service โรงพยาบาลกรุงเทพ ได้ออกมาให้อธิบายถึงการเทคฮอร์โมนให้เข้าใจเพิ่มเติมด้วยว่า เพราะอะไรถึงไม่ควรเทคฮอร์โมนเอง และคนที่อยากข้ามเพศควรเตรียมตัวอย่างไร
รู้จัก “ฮอร์โมนเพศ”
ก่อนอื่นเลยต้องรู้ก่อนว่า ฮอร์โมนเพศ แบ่งออกเป็น ฮอร์โมนเพศชาย “เทสโทสเทอโรน” (Testosterone Hormone) และ ฮอร์โมนเพศหญิง “เอสโตรเจน” (Estrogen Hormone) ซึ่งทั้งสองชนิดเป็นฮอร์โมนกลุ่มสเตรอรอยด์
ในร่างกายคนเราจะมีฮอร์โมนทั้งสองชนิดนี้เหมือนกัน แต่ระดับอาจแตกต่างกันไปตามเพศ และมีสิ่งที่แตกต่างกันคือ
- กลุ่มฮอร์โมนเพศหญิง จะทำให้มีการพัฒนาร่างกายจากเด็กผู้หญิงไปสู่หญิงสาว มีเต้านม มีประจำเดือน มีทรวดทรงองค์เอว หรือผิวพรรณที่เนียนขึ้น
- กลุ่มฮอร์โมนเพศชาย จะทำให้มีการพัฒนาร่างกายจากเด็กผู้ชายไปสู่วัยหนุ่ม เสียงแตกทุ้มขึ้น มีหนวด และมีเครา
การเทคฮอร์โมนคืออะไร
การเทคฮอร์โมนคือ การปรับเปลี่ยนสภาพร่างกายให้มีเพศสภาพตามที่ต้องการด้วยการนำฮอร์โมนเพศที่ไม่ตรงกับเพศของเราเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งมักเป็นที่ต้องการในกลุ่มคนข้ามเพศ เพราะหลังจากเทคฮอร์โมน จะช่วยเปลี่ยนผู้ชายให้เป็นผู้หญิงมากขึ้น เช่น มีเต้านมขยายขึ้น สะโพกผาย เริ่มมีเอว และผิวพรรณดูนุ่มนวลมากขึ้น ขณะที่หนวดเคราก็เริ่มลดน้อยลง ในทางเดียวกันก็สามารถเปลี่ยนผู้หญิงให้เป็นผู้ชาย เริ่มมีหนวด มีเครา มีกล้ามเนื้อมัดใหญ่ รวมถึงประจำเดือนลดน้อยลงจนค่อยๆ หายไป
อายุเท่าไรถึงเทคฮอร์โมนได้
ในความจริงแล้ว คนที่ต้องการเทคฮอร์โมนจะต้องอายุ 18 ปีขึ้นไปถึงจะสามารถทำได้ แต่ถ้าอายุน้อยกว่านั้นจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองก่อน
“เทคฮอร์โมนเองได้” เรื่องเข้าใจผิดอันดับแรกของการข้ามเพศ
มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับชนิดยาในการเทคฮอร์โมนกันเยอะ เพราะฮอร์โมนที่ใช้ในการข้ามเพศมีหลายรูปแบบ ทั้งแบบรับประทาน แบบทาตัว และแบบแผ่นแปะ ซึ่งแต่ละคนจะเหมาะกับรูปแบบต่างๆ แตกต่างกันไป เพราะฉะนั้นผู้สนใจจะเทคฮอร์โมนควรจะต้องปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการ
อีกความเข้าใจผิดอันดับสอง คือเรื่องระดับยาฮอร์โมน ถ้าไม่ตรวจวัดระดับฮอร์โมนเลย ปล่อยให้เกินระดับจะส่งผลต่อสุขภาพ ดังนั้นหลังเทคฮอร์โมน ควรจะมีการตรวจเช็กสุขภาพเป็นระยะ เช่น ความดันโลหิต ไขมันในเลือด ค่าตับ หรือค่าไต เนื่องจากฮอร์โมนผู้ชายและฮอร์โมนผู้หญิงจะส่งผลแตกต่างกันออกไป
ไม่แนะนำให้เทคฮอร์โมนเอง เพราะฮอร์โมนหลายๆ ตัวไม่ได้เหมาะสำหรับการมาเทคเพื่อข้ามเพศ ในบางตัวกลับเพิ่มความเสี่ยงทางสุขภาพมากกว่าคนทั่วไป 20 เท่าด้วยซ้ำ จึงไม่แนะนำให้ซื้อยามากินเอง
การเตรียมตัวก่อนเทคฮอร์โมน
สิ่งที่จะต้องเตรียมตัวก่อนเทคฮอร์โมนเลยคือ
- ตรวจฮอร์โมนเพศในเลือด ควรตรวจก่อนว่าเรามีระดับฮอร์โมนเพศชายและเพศหญิงตั้งต้นเท่าไร
- เช็กสุขภาพก่อนว่าเรามีข้อห้ามอะไรในการใช้ฮอร์โมนหรือไม่ เช่น มีความเสี่ยงของหลอดเลือดอุดตัน โรคหัวใจ ความเสี่ยงของมะเร็งเต้านม หรือผู้หญิงที่จะเทคฮอร์โมนก็ต้องเช็กด้วยมีการตั้งครรภ์หรือไม่
การปฏิบัติตัวหลังเทคฮอร์โมน
การปฏิบัติตัวหลังเทคฮอร์โมนจะไม่แตกต่างจากคนทั่วไป คือ ต้องรับประทานที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น ลดอาหารหวานอาหารมันลง แล้วเลือกทานอาหารที่มีไขมันดีต่อร่างกาย เช่น เนื้อปลา ธัญพืช น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว และควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทานแคลเซียมและวิตามินดี เพื่อเสริมมวลกระดูก
ขอบคุณข้อมูลจาก : pptvhd36