Sisterhood

ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์

4 เดือนที่แล้ว

[เครือข่ายเพื่อนกะเทยไทย #ThaiTGA : กระแสต่อต้านคนข้ามเพศและประเด็นการเปลี่ยนคำนำหน้า]

ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ได้หารือกับ ณชเล บุญญาภิสมภาร รองประธานมูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และ เคธี่ สุหงษา ผู้จัดการโครงการ เกี่ยวกับกระแสต่อต้านคนข้ามเพศในสังคม และแนวทางการผลั ... ดูเพิ่มเติม

[เครือข่ายเพื่อนกะเทยไทย #ThaiTGA : กระแสต่อต้านคนข้ามเพศและประเด็นการเปลี่ยนคำนำหน้า]

ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ได้หารือกับ ณชเล บุญญาภิสมภาร รองประธานมูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และ เคธี่ สุหงษา ผู้จัดการโครงการ เกี่ยวกับกระแสต่อต้านคนข้ามเพศในสังคม และแนวทางการผลักดันการเปลี่ยนคำนำหน้านาม (Gender Recognition) เพื่อเตรียมการสื่อสารและตอบข้อโต้แย้ง

🏳️‍⚧️Gender Recognition คืออะไร?

Gender Recognition หมายถึง การที่รัฐรับรองอัตลักษณ์ทางเพศของบุคคลตามที่บุคคลนั้นระบุ ไม่ใช่ตามเพศกำเนิด รวมถึงการเปลี่ยนคำนำหน้านามในเอกสารราชการ เช่น บัตรประชาชน ใบขับขี่ หนังสือเดินทาง ฯลฯ เพื่อให้ตรงกับอัตลักษณ์ทางเพศของบุคคลนั้น

🍊ประเด็นข้อโต้แย้งจากสังคมไทย
1. “แยกไม่ออกว่าใครเป็นผู้หญิงจริงหรือคนข้ามเพศ”
ผู้ชายบางส่วนกังวลว่าจะไม่สามารถแยกแยะได้ว่าใครเป็นผู้หญิงตามเพศกำเนิดหรือคนข้ามเพศ ซึ่งอาจทำให้รู้สึกไม่มั่นใจในการปฏิสัมพันธ์ในชีวิตประจำวัน
2. “แย่งพื้นที่ของผู้หญิง”
ผู้หญิงบางกลุ่มเห็นว่าคนข้ามเพศหญิงอาจเข้ามาใช้พื้นที่หรือสิทธิที่จัดไว้สำหรับผู้หญิง เช่น ห้องน้ำ ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า หรือกิจกรรมเฉพาะของผู้หญิง
3. “ข้ามเพศเพื่อเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร”
สังคมบางส่วนกังวลว่า การเปิดให้เปลี่ยนคำนำหน้านามอาจถูกใช้เป็นช่องทางหลบเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร
4. “ความไม่เห็นด้วยภายในกลุ่ม LGBTQ+”
บางกลุ่มในชุมชน LGBTQ+ เช่น เลสเบียนหรือเฟมินิสต์บางส่วน มีความกังวลว่าการเปลี่ยนคำนำหน้านามอาจส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวสิทธิสตรีในระยะยาว

🍊คำตอบต่อข้อโต้แย้งเหล่านี้
1. เรื่อง “แยกไม่ออก” ว่าใครเป็นผู้หญิงหรือคนข้ามเพศ
อัตลักษณ์ของบุคคลไม่ควรถูกจำกัดด้วยรูปลักษณ์ภายนอก แต่ควรได้รับการเคารพตามที่บุคคลนั้นกำหนด การไม่สามารถ “แยกออก” สะท้อนถึงความหลากหลายของสังคม ไม่ใช่ข้อบกพร่องของคนข้ามเพศ ประเทศที่มีกฎหมาย Gender Recognition ไม่พบว่าปัญหานี้กระทบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม
2. เรื่อง “แย่งพื้นที่ของผู้หญิง”
ประเทศที่ออกกฎหมาย Gender Recognition เช่น แคนาดาและนิวซีแลนด์ มีแนวทางการใช้พื้นที่ร่วมอย่างชัดเจน โดยเน้นการปกป้องความปลอดภัยของทุกคน ข้อมูลเชิงสถิติไม่พบว่าการเปิดพื้นที่ให้คนข้ามเพศเพิ่มความเสี่ยงต่อความรุนแรงหรืออาชญากรรม
3. เรื่อง “เกณฑ์ทหาร”
ประเทศไทยมีระบบการเกณฑ์ทหารที่อ้างอิงข้อมูลเพศกำเนิดในทะเบียนราษฎร บุคคลข้ามเพศซึ่งเปลี่ยนคำนำหน้านามแล้ว ยังต้องเข้าสู่กระบวนการตามพระราชบัญญัติรับราชการทหารอยู่ดี และมีแนวปฏิบัติในการยกเว้นคนข้ามเพศในขั้นตอนนี้ชัดเจนแล้ว
4. เรื่อง “ความเห็นต่างในกลุ่ม LGBTQ+”
การมีความเห็นต่างในกลุ่ม LGBTQ+ เป็นเรื่องปกติในทุกสังคม แต่สิทธิในการรับรองอัตลักษณ์ของคนข้ามเพศไม่ควรถูกจำกัดด้วยความกลัวหรือความเข้าใจผิด เพราะการเคารพอัตลักษณ์ของแต่ละคน คือการยืนยันถึงความเท่าเทียมและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของทุกคน

📍อัตลักษณ์ทางเพศคือสิทธิมนุษยชน

สิทธิในการมีอัตลักษณ์ทางเพศ เป็นหลักการพื้นฐานของสิทธิมนุษยชน ตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (UDHR) และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ที่ระบุว่าทุกคนมีสิทธิในศักดิ์ศรี เสรีภาพ และความเท่าเทียม โดยไม่ถูกเลือกปฏิบัติ

🧡ตัวอย่างประเทศที่รับรองแล้ว
• อาร์เจนตินา: ผ่าน “กฎหมายอัตลักษณ์ทางเพศ” ปี 2012 อนุญาตให้เปลี่ยนคำนำหน้านามและข้อมูลทางเพศในเอกสารราชการโดยไม่ต้องผ่าตัดหรือได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์
• มอลตา: ออกกฎหมาย Gender Identity, Gender Expression and Sex Characteristics Act ปี 2015 รับรองสิทธิของคนข้ามเพศและบุคคลที่มีเพศกำกวมอย่างครบถ้วน
• แคนาดา: ประมวลกฎหมาย Bill C-16 ปี 2017 คุ้มครองบุคคลที่มีอัตลักษณ์ทางเพศและการแสดงออกทางเพศภายใต้กฎหมายสิทธิมนุษยชน

🍊บทสรุป

การรับรองอัตลักษณ์ทางเพศไม่ใช่เพียงประเด็นของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่คือการสร้างสังคมที่เคารพความหลากหลายและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ประเด็นข้อโต้แย้งสามารถหาทางออกได้โดยไม่ละเมิดสิทธิของใคร การเดินหน้าเรื่องนี้จึงเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาสังคมไทยให้มีความเท่าเทียมและปลอดภัยสำหรับทุกคน

⸻

#สสครูธัญ #พรรคประชาชน #GenderRecognition #คำนำหน้าตามสมัครใจ #Transgender
เครือข่ายเพื่อนกะเทยไทย Thai Transgender Alliance-ThaiTGA

ดูน้อยลง

0 ถูกใจ

ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์

10 เดือนที่แล้ว

[กฎหมายความเท่าเทียมทางเพศ: แค่คำพูดสวยหรูหรือการเปลี่ยนแปลงจริง?]

แพทองธาร ชินวัตร ได้แถลงนโยบายเกี่ยวกับการส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยระบุว่าจะเร่งแก้ไขและปรับปรุงกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้มีความหลากหลายทางเพศสามารถเข้าถึงสิทธิ์ที่ควรได้ ... ดูเพิ่มเติม

[กฎหมายความเท่าเทียมทางเพศ: แค่คำพูดสวยหรูหรือการเปลี่ยนแปลงจริง?]

แพทองธาร ชินวัตร ได้แถลงนโยบายเกี่ยวกับการส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยระบุว่าจะเร่งแก้ไขและปรับปรุงกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้มีความหลากหลายทางเพศสามารถเข้าถึงสิทธิ์ที่ควรได้รับ เช่น การสมรสตามกฎหมาย การดูแลคู่ชีวิต และสิทธิ์ในการเข้าถึงสวัสดิการต่าง ๆ โดยเริ่มต้นจากสวัสดิการของข้าราชการ รัฐบาลยังกล่าวว่าจะต่อยอดความสำเร็จเดิมเพื่อบังคับใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียมอย่างมีประสิทธิภาพตามที่ตั้งเป้าไว้

อย่างไรก็ตาม ธัญมองว่าการกล่าวถึงประเด็น #สมรสเท่าเทียม ในครั้งนี้ดูซ้ำซ้อนกับสิ่งที่มีอยู่แล้ว เพราะกระบวนการทางกฎหมายได้ถูกกำหนดและอยู่ในขั้นตอนการบังคับใช้ รัฐบาลจึงดูเหมือนพยายามให้เครดิตตัวเองในสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ขาดข้อเสนอใหม่ที่ชัดเจน

เมื่อพิจารณามติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2567 ซึ่งพิจารณาข้อสังเกตเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (สมรสเท่าเทียม) รวมถึงข้อสังเกตในการแก้ไขพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยการใช้เทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ และร่างพระราชบัญญัติการรับรองอัตลักษณ์ทางเพศ ซึ่งไม่ได้ถูกกล่าวถึงในแถลงนโยบายนี้

คุณแพทองธาร ยังกล่าวว่า ในฐานะนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่สองของประเทศไทย เธอจะส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างชายและหญิง ทั้งในครอบครัวและที่ทำงาน เพื่อให้ผู้หญิงในประเทศไทยไม่ต้องเผชิญกับการเลือกปฏิบัติ และสามารถเติบโตในหน้าที่การงานได้เท่าเทียมกับผู้ชาย

แม้ว่าคำแถลงจะมุ่งเน้นการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศในครอบครัวและที่ทำงาน แต่เมื่อเทียบกับแผนปฏิบัติการด้านการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ (พ.ศ. 2566-2570) ที่เป็นภารกิจของกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว นโยบายของนายกรัฐมนตรีดูแคบกว่าแผนที่กระทรวงพัฒนาสังคมฯ ได้วางไว้เสียอีก ซึ่งครอบคลุมทุกภาคส่วน เช่น หน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม การแถลงนโยบายของนายกรัฐมนตรีจึงเป็นเหมือนคำแถลงที่ไม่รู้ถึงปัญหา และเป็นคำพูดลอย ๆ ที่ฟังดูให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมทางเพศ แต่ไม่รู้ว่าจะอะไร ทำอย่างไร และมีกรอบเวลาเสร็จเมื่อไหร่ นโยบายไม่ตอบสนองต่อสถานการณ์

หากให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมทางเพศจริง ๆ นายกรัฐมนตรีสามารถเร่งรัดภารกิจกรมฯ ที่ล่าช้า และระบุปัญหาที่เกิดจากพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 ซึ่งยังไม่สามารถทำให้ประชาชนเข้าถึงกลไกการแก้ปัญหาได้อย่างทั่วถึง ขณะเดียวกัน ร่างพระราชบัญญัติขจัดการเลือกปฏิบัติต่อบุคคล ทางกฤษฎีกาก็ให้ความเห็นว่าซ้ำซ้อน ก็น่าจะต้องพิจารณากลไกดังกล่าวที่ยังไม่มี กับกลไกร่างพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศว่าควรมีการปรับปรุงเช่นไร

ในขณะที่ แพทองธาร ชินวัตร ดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ช่วงต้นปี 2565 ได้กล่าวถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศในประเทศไทย โดยเสนอให้มีการแจกผ้าอนามัยฟรีเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้หญิง นโยบายนี้มุ่งเน้นการสร้างความเท่าเทียมและลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ

จากการแถลงนโยบายครั้งนี้ จึงไม่แน่ชัดว่าจะยืนยันโครงการดังกล่าวอยู่หรือไม่ เนื่องจากไม่มีการกล่าวถึงในที่ประชุมร่วมของรัฐสภา

#สสครูธัญ #พรรคประชาชน #ประชุมสภา #สมรสเท่าเทียม #คำนำหน้าตามสมัครใจ #sexworker #GenderResponsiveBudgeting #GRB #LGBTQ #GenderEquality

ดูน้อยลง

0 ถูกใจ

ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์

1 ปีที่แล้ว

[พบสมาชิกวุฒิสภาญี่ปุ่น ประเด็นสมรสเท่าเทียมในประเทศไทย และก้าวต่อไป]

ธัญได้นำ คณะกรรมาธิการกิจการเด็กเยาวชนสตรีผู้สูงอายุผู้พิการกลุ่มชาติพันธุ์และผู้มีความหลากหลายทางเพศเข้าพบร่วมหารือกับสมาชิกวุฒิสภาของญี่ปุ่น Mr. ISHIKAWA Taiga (คุณอิชิคาวะ ไทกะ) Ms. FUKUSHIMA Mizuho (ฟูกูชิ ... ดูเพิ่มเติม

[พบสมาชิกวุฒิสภาญี่ปุ่น ประเด็นสมรสเท่าเทียมในประเทศไทย และก้าวต่อไป]

ธัญได้นำ คณะกรรมาธิการกิจการเด็กเยาวชนสตรีผู้สูงอายุผู้พิการกลุ่มชาติพันธุ์และผู้มีความหลากหลายทางเพศเข้าพบร่วมหารือกับสมาชิกวุฒิสภาของญี่ปุ่น Mr. ISHIKAWA Taiga (คุณอิชิคาวะ ไทกะ) Ms. FUKUSHIMA Mizuho (ฟูกูชิมา มิซูโฮะ) เมื่อได้เข้าพบแล้วสิ่งแรกสมาชิกวุฒิสภาทั้งสองท่านได้แสดงความยินดีต่อประเทศไทยที่กฎหมาย #สมรสเท่าเทียม ผ่านสภาเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา

ได้ร่วมหารือกับสมาชิกวุฒิสภาในประเด็น #คำนำหน้าตามสมัครใจ หรือ ร่างพระราชบัญญัติการระบุเพศและแก้ไขคำนำหน้านาม คือก้าวต่อไป ในทางกลับกันประเทศญี่ปุ่นนั้นยังไม่มีกฎหมายสมรสเท่าเทียมในขณะนี้ แต่ประเทศญี่ปุ่นก็มีกฎหมายที่ให้บุคคลข้ามเพศสามารถเปลี่ยนคำนำหน้าและระบุเพศได้

ธัญรู้สึกดีใจและเป็นเกียรติอย่างมากที่การเดินทางมาครั้งนี้ ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนทางด้านกฎหมายและนโยบายของญี่ปุ่น พร้อมข้อเสนอแนะที่แลกเปลี่ยนร่วมกัน และหากปลายปีนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมประกาศใช้ สมาชิกวุฒิสภาทั้งสองท่านจะเดินทางมาร่วมฉลอง #สมรสเท่าเทียม ที่ประเทศไทยด้วย

#สสครูธัญ #คำนำหน้าตามสมัครใจ
#สมรสเท่าเทียม #ความเท่าเทียมทางเพศ #LGBTQ #ก้าวไกล #พรรคก้าวไกล #Japan #Thailand

ดูน้อยลง

1 ถูกใจ

ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์

1 ปีที่แล้ว

[งานเฉลิมฉลองสมรสเท่าเทียมในงานเทศกาล Buriram Pride Festival 2024]
.
เมื่อวานนี้ เวลา 09.00 - 16.30 น. ณ #โรงแรมอัลวาเรซ จัดงานเวทีเสวนาจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบาย "การสร้างสุขภาวะของเด็กและเยาวชนที่มีความหลากหลายทางเพศในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์"
.
ขอขอบคุณสื่อคุณภาพ #ThaiPBS ร ... ดูเพิ่มเติม

0 ถูกใจ

ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์

1 ปีที่แล้ว

[ก้าวใหม่! ร่างพระราชบัญญัติการระบุเพศ และการแก้ไขคำนำหน้านาม : หลักการ self-determination และสิทธิขั้นพื้นฐาน]
.
ธัญ ในฐานะประธานคณะทำงานร่างพระราชบัญญัติการระบุเพศ และการแก้ไขคำนำหน้านาม พรรคก้าวไกล พร้อมด้วยคุณภัสริน รามวงศ์ สส.กรุงเทพฯ เขต 7 พรรคก้าวไกล, คุณกิตตินันท์ ธรมธั ... ดูเพิ่มเติม

0 ถูกใจ

Trending Now