Sisterhood

[อุปสรรคของคนข้ามเพศกับการเกณฑ์ทหาร : เจตจำนงเพศที่ต้องถูกวินิฉัย]

วันที่ 9 เมษายน 2567 ธัญได้ลงพื้นที่กับคุณซีซ่า ฤทธิวงศ์ รองผู้อำนวยการสำนักสิทธิมนุษยชนความยั่งยืนและการระดมทรัพยากร และ ว่าที่ร้อยตรีวิศรุต ครองโพธิ์ หัวหน้างานกลุ่มงานเยาวชนและแกนนำอาสาสมัคร สมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อสังเกตการณ์การเกณฑ์ทหาร และอุปสรรคของคนข้ามเพศที่ต้องเผชิญในที่การเกณฑ์ทหารยังไม่ถูกยกเลิก

ประเด็นแรกถึงแม้ว่าเพศสภาพมีการข้ามเพศอย่างชัดเจนก็ตามแต่ในปัจจุบันการเกณฑ์ทหารยังคงต้องใช้เอกสารใบรับรองแพทย์ จากที่ทราบข้อมูลล่าสุดก็มีใบรับรองแพทย์บางแห่งที่ต้องใช้เงินถึง 3,000 บาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมาก และแม้ในบางกรณีที่โรงพยาบาลไม่ได้มีการคิดค่าค่าใช้จ่ายแต่บุคลากรทางการแพทย์ก็ไม่เพียงพอ ทำให้การนัดหมายคิวแพทย์ต้องใช้เวลา ระหว่างสองสัปดาห์จนถึงสองเดือน ทำให้เป็นภาระค่าใช้จ่ายมากขึ้น หรือไม่ก็ไม่มีใบรับรองจากแพทย์เกี่ยวกับเพศสภาพทำให้ต้องเข้าสู่กระบวนการผ่อนผัน และต้องเดินทางมาอีกในปีหน้า

เจตจำนงของการดำเนินชีวิตตามอัตลักษณ์ทางเพศ ถือเป็นสิทธิมนุษยชนที่คนทุกคนสามารถกำหนดได้ และไม่มีความจำเป็นใดใดที่ต้องให้แพทย์เป็นผู้วินิจฉัย เพราะเราทุกคนย่อมรับรู้เพศของตนเอง

ถึงแม้ว่าในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมาสภาผู้แทนราษฎรมีมติไม่รับหลักการร่างพระราชบัญญัติการรับรองเพศคำนำหน้าน้ำและคุ้มครองบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ แต่ธัญ และพรรคก้าวไกลจะผลักดันต่อในสมัยประชุมครั้งหน้า ซึ่งหลักการสำคัญคือเจตจำนงในการดำเนินชีวิตตามอัตลักษณ์ทางเพศของตน

ทั้งนี้ในภาพใหญ่ พรรคก้าวไกลเรายืนยันว่าทางออกที่ยั่งยืนที่สุด คือต้องยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร ผ่านการแก้ไขกฎหมายรับราชการทหาร พ.ศ.2497 และเปลี่ยนเป็นระบบสมัครใจ เพื่อคืนเสรีภาพในการเลือกประกอบอาชีพ คืนสิทธิในการกำหนดชีวิตตนเองของคนทุกคน ที่รวมถึงการใช้ชีวิตอย่างสอดคล้องกับอัตลักษณ์ทางเพศด้วย ซึ่งวันนี้ต้องตั้งคำถามต่อนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ว่ารัฐบาลของท่านจะยกเลิกการเกณฑ์ทหารกี่โมง

#สสครูธัญ #พรรคก้าวไกล #ก้าวไกล #ยกเลิกเกณฑ์ทหาร #สมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย #Transwoman #Transgender #คำนำหน้าตามสมัครใจ

ดูน้อยลง

Trending Now