Sisterhood

[ภาษาดนตรีและภาษากายที่สร้างสรรค์คือการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ]

ภาพยนตร์ Deadpool Wolverine และกระแสไวรัลบน TikTok จากเพลง “Bye Bye Bye” ของ NSYNC ที่กลับมาฮิตอีกครั้งในยุคนี้ สะท้อนถึงพลังของดนตรีและความทรงจำที่ยืนยาวของเพลงในวัฒนธรรมป๊อป ยิ่งไปกว่านั้น เสียงเพลงนี้ยังได้กลายเป็นเสียงสะท้อนที่ทรงพลังของยุค 90 ซึ่งแม้ว่าจะผ่านไปหลายปี แต่เพลงนี้ยังคงมีอิทธิพลในวัฒนธรรมดนตรีและสังคมสมัยใหม่

เพลง “Bye Bye Bye” นับเป็นหนึ่งในเพลงที่ประสบความสำเร็จในยุคนั้น ด้วยเทคนิค Synthesizer แบบ #EarCandy ที่ทำให้เพลงมีความติดหู และการใช้คำร้องที่คล้องจองกับจังหวะดนตรีอย่างลงตัว สิ่งเหล่านี้ถือเป็นการประพันธ์เพลงที่มีความสร้างสรรค์และน่าสนใจ ทำให้เพลงนี้ยังคงอยู่ในความทรงจำของผู้ฟังมากมาย แม้เวลาจะผ่านไปนานแล้ว

ดนตรีและท่าเต้นนั้นถือเป็นภาษาสากลที่ทุกคนสามารถเข้าใจและมีส่วนร่วมได้ ไม่ว่าจะเป็นชนชาติใด ภาษาใด เราต่างสามารถรู้สึกถึงความสนุกและความตื่นเต้นจากดนตรีและการเต้นได้อย่างไม่จำกัด คนไทยเองก็สามารถสนุกไปกับเพลงต่างชาติได้ แม้ว่าจะไม่เข้าใจภาษา แต่ดนตรีและท่าเต้นคือสื่อที่สามารถเชื่อมโยงเราเข้ากับวัฒนธรรมและความรู้สึกของผู้คนทั่วโลกได้

เพลงที่ใช้เทคนิค *Ear Candy* อย่างโดดเด่นสามารถพบได้ในหลายแนวเพลง ต่อไปนี้คือตัวอย่างบางเพลงที่ใช้เทคนิคนี้:

Bad Guy โดย Billie Eilish - เพลงนี้มีเสียงเบสที่หนักแน่นและการใช้เสียงสแนร์ที่เป็นจังหวะ พร้อมกับเสียง whisper vocals ที่ทำให้เพลงนี้มีความพิเศษและน่าดึงดูด

Uptown Funk โดย Mark Ronson ft. Bruno Mars - เสียงเบสไลน์ที่แข็งแรงและการใช้เสียงเครื่องดนตรีที่แยกออกมาในบางช่วง เช่น เสียง "Doh!" ที่ทำให้เกิดความรู้สึกที่ติดหู

Shape of You โดย Ed Sheeran - การใช้เสียงจังหวะที่คล้ายกับ “marimba” และการเน้นเสียง loop ของทำนองที่เรียบง่ายแต่ติดหูทำให้เพลงนี้เป็นที่น่าจดจำ

Blinding Lights โดย The Weeknd - เพลงนี้มีการใช้เสียงซินธิไซเซอร์ที่ชวนให้นึกถึงเพลงยุค 80s ซึ่งเป็นเทคนิคที่ทำให้เพลงนี้เป็นที่น่าจดจำและสร้างความรู้สึกที่หลากหลาย

Happy โดย Pharrell Williams เสียงมือปรบและเสียงร้องสำเนียงซ้ำๆ เป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจและทำให้เพลงนี้มีความสดใสและน่าฟัง

เพลงเหล่านี้ล้วนใช้เทคนิค Ear Candy ในการทำให้ผู้ฟังจดจำและดึงดูดความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการใช้จังหวะที่ติดหู เสียงซินธิไซเซอร์ที่โดดเด่น หรือการเน้นเสียงที่ไม่ธรรมดา

หากเราต้องการที่จะสร้างเศรษฐกิจไทยให้เติบโต สิ่งหนึ่งที่ต้องถามคือ เราจะทำอย่างไรให้คนต่างชาติสนใจและอยากพูดภาษาไทยได้? ดนตรีและท่าเต้นอาจเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในการนำพาภาษาไทยเข้าสู่เวทีสากล และสร้างการมีส่วนร่วมจากคนทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวอย่างเช่น “ไชน่าดอลล์” #ChinaDolls ที่มีเบลและหว่าหวา ซึ่งเป็นวงดนตรีที่ทำให้คนไต้หวันชื่นชอบและพูดคำว่า "สวัสดีค่ะ" ตามในเพลง หรืออย่าง *BNK48* ที่มีเพลงคุ้กกี้เสี่ยงทาย Fortune Cookies ซึ่งต้นฉบับเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่เมื่อมานำเสนอในไทย ก็ปรับเปลี่ยนเป็นภาษาไทย ทำให้คนไทยและคนต่างชาติสนใจและร่วมร้องร่วมเต้นไปกับเพลงในภาษานั้น ๆ และมันคือจุดเริ่มที่ทำให้คนอยากพูดภาษาไทยด้วยการร่วมสนุกไม่ใช่การบังคับ

แน่นอนว่า เรื่องของภาษาดนตรีต้องมีการศึกษาวิจัยและค้นหาตลาดนานาชาติอย่างละเอียด แต่การที่จะทำให้ Thai Pop #Tpop ไปเฉิดฉายบนเวทีโลกนั้นย่อมต้องมีองค์ประกอบอื่น ๆ ที่จะต้องใช้ความทุ่มเทและความพร้อมจากบุคลากรและศิลปินของเรา ที่ต้องการการสนับสนุน เพื่อที่จะสามารถสร้างผลงานที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมไทยและดึงดูดความสนใจจากผู้คนทั่วโลกได้อย่างยั่งยืน

#สสครูธัญ #พรรคประชาชน #CreativeEconomy #เศรษฐกิจสร้างสรรค์ #Deadpool #Deadpool andWolverine
#ByeByeBye

ดูน้อยลง

Trending Now